วันอาทิตย์ที่ 19 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560

15 สูตรขนมไทยยอดนิยม
          แจกฟรี ๆ ไปเลย สูตรขนมไทยยอดนิยม 15 สูตร วิธีทำขนมหวานง่ายกว่าที่คิด ลองทำสนุก ๆ กินในครอบครัว หรือจะทำขายก็เด็ด ถ้าหากให้สูตรขนาดนี้แล้วไม่ลองทำแอบเคืองนะ ขอบอก
  
          เพื่อน ๆ ที่ชอบกินขนมไทยอยากทำกินเองกันบ้างไหม รับรองว่า อิ่มจุใจจนพุงล้ำมองไม่เห็นปลายเท้าไปเลย หรือถ้าหากทำกินแล้วอยากกระจายความอร่อยก็เอาไปขายสร้างรายได้ด้วยเลย ถ้าหากเราใจตรงกัน ไม่ว่าอยากทำกิน หรืออยากทำขาย อย่ารอช้า วันนี้กระปุกดอทคอมขอนำเสนอ 15 สูตรขนมไทยยอดนิยม แต่ละสูตรขอบอกเลยว่า เจ๋งเป้งทั้งนั้น ถูกปากคนทำและโดนใจคนซื้อแน่นอนเจ้าค่ะ



ขนมชั้นดอกกุหลาบ เมนูของหวานสวยน่ากินสุด ๆ

15 สูตรขนมไทยยอดนิยม

 1. ขนมชั้นดอกกุหลาบ 

          แหม… งดงามมาก ๆ สำหรับขนมชั้นดอกกุหลาบ ไอเดียทำขนมไทยเก๋ ๆ แปลงร่างขนมชั้นชิ้นสี่เหลี่ยมกลายเป็นดอกกุหลาบสีหวาน ๆ ถ้าทำกินเองก็อย่าลืมแชร์รูปลงเฟซบุ๊กด้วยล่ะเผื่อจะได้มีคนแอบอิจฉาในใจ หรือถ้าใครสนใจทำขายก็ดูเข้าท่าดีเหมือนกัน ดูดีมีสไตล์ไม่ซ้ำใครด้วย เอ้า… ด่วน ๆ คันไม้คันมือเต็มทน มาเข้าครัวพร้อมกันเลยจ้า

15 สูตรขนมไทยยอดนิยม
 ส่วนผสม ขนมชั้นดอกกุหลาบ

           หัวกะทิ 2 ถ้วย
           น้ำตาลทราย 1 ถ้วย
           แป้งท้าวยายม่อม 1/8 ถ้วย
           แป้งมันสำปะหลัง 1 ถ้วย
           แป้งข้าวเจ้า 1/4 ถ้วย
           สีผสมอาหารสีแดง
           กลิ่นมะลิ
           น้ำมันพืช

 วิธีทำขนมชั้นดอกกุหลาบ

15 สูตรขนมไทยยอดนิยม

           1. ใส่กะทิลงในหม้อ นำขึ้นตั้งไฟใส่น้ำตาลทราย คนให้เข้ากันจนละลาย ปิดไฟ พักทิ้งไว้ให้เย็น พอเย็นให้ตักช้อนเอาหัวกะทิที่อยู่ด้านบนใส่ภาชนะเก็บไว้ 

15 สูตรขนมไทยยอดนิยม
           2. ผสมแป้งท้าวยายม่อม แป้งมันสำปะหลัง และแป้งข้าวเจ้าเข้าด้วยกัน ค่อย ๆ เทหัวกะทิใส่ลงไปทีละน้อยสลับกับใช้มือนวดแป้งจนแป้งรวมตัวกันเป็นก้อนแล้วนวดต่ออีก ประมาณ 15 นาที เทน้ำกะทิที่เหลือใส่ลงไป ตามด้วยกลิ่นมะลิ คนผสมให้เข้ากันเป็นเนื้อเดียว นำส่วนผสมไปกรองด้วยกระชอน เตรียมไว้

15 สูตรขนมไทยยอดนิยม
           3. แบ่งส่วนผสมแป้งออกเป็น 2 ส่วน ใส่สีผสมอาหารสีแดงลงไป 1 ส่วน คนผสมสีให้เข้ากัน 

           4. ทาน้ำมันพืชลงบนถาดสำหรับนึ่งขนมชั้นให้ทั่ว เตรียมไว้

15 สูตรขนมไทยยอดนิยม
           5. นำชุดนึ่งขึ้นตั้งไฟ รอจนน้ำเดือดพล่าน จากนั้นวางถาดสำหรับนึ่งขนมลงไปแล้วตักส่วนผสมแป้งสีชมพูใส่ลงไปในพิมพ์ทำเป็นชั้นที่ 1 ปิดฝานึ่งประมาณ 5-7 นาที

15 สูตรขนมไทยยอดนิยม
           6. พอชั้นที่ 1 สุกแล้วให้เปิดฝาแล้วตักส่วนผสมสีขาวใส่ลงไป ปิดฝานึ่งต่อ ทำสลับกันไปเรื่อย ๆ จนส่วนผสมแป้งหมดและเต็มพิมพ์

15 สูตรขนมไทยยอดนิยม

           7. เมื่อนึ่งเสร็จแล้วนำขนมชั้นออกมาจากชุดนึ่ง พักไว้ให้เย็นลง นำขนมชั้นออกจากพิมพ์ ผ่าแบ่งครึ่งขนมชั้นตามยาวแล้วลอกขนมแต่ละชั้นออกมาเป็นแผ่น

           8.  วิธีม้วนดอกกุหลาบ คือ ให้ม้วนแผ่นขนมชั้นเข้ามา 1 ทบ พับกลีบแรกไปข้างหลัง 45 องศา แล้วจึงพับตลบขึ้นมา ทำซ้ำเรื่อย ๆ จนหมด พร้อมเสิร์ฟ

          ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ ขนมชั้นดอกกุหลาบ ขนมไทยใส่ไอเดีย เมนูล้ำค่าหนึ่งเดียวในปฐพี 



15 สูตรขนมไทยยอดนิยม

 2. ขนมชั้นใบเตย 

          เคยไหม ?  ซื้อขนมชั้นใบเตยกินแล้วรสชาติจืดชืด ไม่หอมหวานมัน แทบอยากเขวี้ยงทิ้งแต่แอบเสียดายสตางค์เลยต้องจำทนฝืนกิน แต่ถ้าหากได้ลองมาทำขนมชั้นใบเตย สูตรจาก คุณ RinS Cook Book สมาชิกเว็บไซต์ยูทูบดอทคอม จะเจอเนื้อคู่ ไม่ใช่ ๆ จะเจอรสชาติที่ถูกปากในบัดดล เนื้อเหนียวนุ่ม รสชาติหวานหอมกลิ่นใบเตย หั่นเป็นชิ้นสี่เหลี่ยมพอดีคำ จับใส่ปากตัวเอง หรือคนข้าง ๆ ได้เลย ถ้าจะทำขายก็เอาใส่ถุงพลาสติก หรือใส่กล่องพลาสติกให้สวยงาม รับรองว่า หน้าตาดีนี้และรสชาติอร่อยขนาด ลูกค้าจะไหลมาเทมาเชียวค่ะ

 ส่วนผสม ขนมชั้นใบเตย

           น้ำตาลทราย 2 1/2  ถ้วย
           กะทิ 4  ถ้วย
           แป้งข้าวเจ้า 1/2 ถ้วย
           แป้งมันสำปะหลัง 1/2 ถ้วย
           แป้งท้าวยายม่อม 1 1/2  ถ้วย (หรือแป้งถั่วเขียว)
           น้ำใบเตยคั้นเข้มข้น 1/2 ถ้วย
           น้ำหอมกลิ่นมะลิผสมน้ำ 1/2 ถ้วย
           ถาดหรือพิมพ์สี่เหลี่ยมสำหรับนึ่งขนม (ขนาด 10x10 นิ้ว หรือ 8x8 นิ้ว)

 วิธีทำขนมชั้นใบเตย

           1. ใส่น้ำตาลทรายและกะทิลงในหม้อ คนผสมให้เข้ากันแล้วนำขึ้นตั้งไฟปานกลางประมาณ 5 นาที จนน้ำตาลทรายละลาย (ไม่ต้องรอให้เดือด) ยกลงจากเตา พักทิ้งไว้จนเย็น

           2. นึ่งถาดหรือพิมพ์ในชุดนึ่งที่มีน้ำเดือด ประมาณ 15 นาที เตรียมไว้

           3. ผสมแป้งข้าวเจ้า แป้งมันสำปะหลัง และแป้งท้าวยายม่อมเข้าด้วยกัน ค่อย ๆ เทส่วนผสมน้ำกะทิลงไป ใช้มือนวดแป้งให้เข้ากันเป็นเนื้อเดียว นวดประมาณ 15 นาที จนแป้งไม่จับตัวเป็นก้อน จากนั้นนำไปกรองด้วยตะแกรง

           4. แบ่งแป้งเป็น 2 ถ้วย โดยถ้วยที่ 1 ผสมกับน้ำใบเตย และถ้วยที่ 2 ผสมกับน้ำมะลิ คนผสมให้เข้ากัน เตรียมไว้

           5. ทำชั้นที่ 1 โดยเทส่วนผสมสีขาว (เทส่วนผสมทุกชั้นประมาณ 1/3 ถ้วย) ลงในพิมพ์ ปิดฝา นึ่งประมาณ 5 นาที เปิดฝา เทส่วนผสมสีเขียวลงไป ปิดฝา นึ่งประมาณ 5 นาที ทำซ้ำเช่นเดิม สลับชั้นกันจนหมดแป้ง จะได้ประมาณ 9-10 ชั้น โดยชั้นสุดท้าย ให้นึ่งประมาณ 7 นาที ยกออกจากชุดนึ่ง วางพักทิ้งไว้จนเย็นสนิท (ประมาณ 3 ชั่วโมง) 

           6. นำขนมออกจากถาด จุ่มมีดลงในน้ำร้อน กดลงบนขนมเป็นชิ้น ๆ จัดใส่จาน พร้อมเสิร์ฟ

          ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ ขนมชั้นใบเตย ขนมไทยสีสันสดใส เนื้อเหนียวนุ่ม




15 สูตรขนมไทยยอดนิยม

 3. ขนมครก 

          ถ้าหากวันว่าง ๆ ไม่มีอะไรทำลองชวนแฟนมานั่งแคะขนมครกเป็นกิจกรรมสนุก ๆ กันดีไหม ขอแนะนำขนมครกสูตรจาก คุณเนินน้ำ สูตรนี้ใส่ไส้รวมมิตรด้วยนะ ใส่ทั้งเผือก ข้าวโพด และต้นหอม กินให้จุใจไปเลยจ้า 

 ส่วนผสม แป้งขนมครก

           แป้งข้าวเจ้า 1 1/4 ถ้วย
           ข้าวสุก 1/3 ถ้วย
           น้ำตาลทราย 1/8 ถ้วย
           เกลือสมุทร 1 ช้อนชา
           น้ำปูนใส 1/4 ถ้วย
           หัวกะทิ 1 ถ้วย
           หางกะทิ 1/2 ถ้วย

 ส่วนผสม หน้ากะทิ

           หัวกะทิ 3/4 ถ้วย
           น้ำตาลทราย 1/8 ถ้วย
           เกลือสมุทร 1/4 ช้อนชา
           แป้งข้าวเจ้า 1/2 ช้อนโต๊ะ

 ส่วนผสม หน้าขนมครก

           ต้นหอมซอย
           เผือกหั่นเต๋าเล็ก ๆ 
           เม็ดข้าวโพด
           น้ำมันพืชสำหรับทาเบ้าขนมครก

 วิธีทำแป้งขนมครก

           นำส่วนผสมตัวแป้ง ทั้งแป้งข้าวเจ้า ข้าวสุก น้ำตาลทราย เกลือสมุทร น้ำปูนใส หัวกะทิ และหางกะทิ ไปปั่นด้วยเครื่องปั่นจนละเอียดเข้ากันเป็นเนื้อเดียว เทใส่ภาชนะแล้ววางพักทิ้งไว้ประมาณ 15-20 นาที 

 วิธีทำหน้ากะทิ

           ผสมหัวกะทิ น้ำตาลทราย และเกลือสมุทรเข้าด้วยกัน คนผสมจนน้ำตาลทรายละลายแล้วค่อย ๆ ใส่แป้งข้าวเจ้าลงไป คนผสมให้ละลายเข้ากันดี เตรียมไว้

 วิธีทำขนมครก

           1. นำเบ้าขนมครกขึ้นตั้งใฟให้ร้อน ใช้ไฟปานกลาง ทาน้ำมันให้ทั่วหลุมแล้วตักแป้งหยอดลงไปประมาณ 3/4 ของหลุม

           2. พอแป้งเริ่มเซตตัว ตักส่วนผสมหน้ากะทิหยอดทับลงไปให้เต็ม ปิดฝาขนมครก

           3. พอขนมเริ่มสุก เปิดฝาโรยหน้าด้วยเผือก ข้าวโพด และต้นหอมซอย เมื่อขนมสุกใช้ช้อนแคะขนมออกจากเบ้า จัดใส่จาน พร้อมเสิร์ฟ 

          ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ วิธีทำขนมครก ขนมไทยคู่ปาก (ซอย) คนไทยมาตั้งแต่สมัยเอ๊าะ ๆ




15 สูตรขนมไทยยอดนิยม

 4. ขนมถ้วย 

          เอาใจคนชอบกินขนมถ้วย ขนมไทยหอมหวานมันกะทิ แต่ซื้อกินเมื่อไรแล้วรู้สึกว่า ยังไม่จุใจพอ ลองทำเองกันเถอะด้วยสูตรขนมถ้วย จาก คุณ  RinS Cook Book สูตรนี้ตัวขนมใช้น้ำตาลปี๊บ รสชาติหวานกลมกล่อม เข้ากันดีกับหน้าขนมที่เป็นกะทิ ถ้าหากทำขายรับรองว่า ลูกค้าติดใจชัวร์

 ส่วนผสม หน้าขนมถ้วย

           แป้งข้าวเจ้า 1/2 ถ้วย
           น้ำตาลทราย 1/2 ถ้วย
           เกลือป่น 1 ช้อนชา
           หัวกะทิ 2 ถ้วย

 ส่วนผสม ตัวขนม

           แป้งข้าวเจ้า 3/4 ถ้วย
           น้ำตาลปี๊บ 230 กรัม
           แป้งมันสำปะหลัง 1/4 ถ้วย
           แป้งท้าวยายม่อม 1 ช้อนโต๊ะ
           น้ำลอยดอกมะลิ 1 1/4  ถ้วย (หรือน้ำผสมกลิ่นมะลิ)
           หางกะทิ 1/2 ถ้วย

 วิธีทำขนมถ้วย

           1. ทำหน้าขนมโดยผสมแป้งข้าวเจ้า น้ำตาลทราย เกลือป่น และหัวกะทิเข้าด้วยกัน ใช้มือขยำส่วนผสมจนเข้ากันและไม่เป็นเม็ด จากนั้นนำไปกรองผ่านตะแกรง เตรียมไว้ 

           2. ทำตัวขนมโดยผสมแป้งข้าวเจ้า น้ำตาลปี๊บ แป้งมันสำปะหลัง แป้งท้าวยายม่อม น้ำลอยดอกมะลิ และหางกะทิเข้าด้วยกัน ใช้มือขยำส่วนผสมจนเข้ากันและน้ำตาลปี๊บละลายหมด จากนั้นนำไปกรองผ่านตะแกรง เตรียมไว้ 

           3. นำถ้วยขนมไปนึ่งประมาณ 5 นาที (ป้องกันไม่ให้ขนมติดถ้วย) 

           4. เทส่วนผสมตัวขนมลงไปในถ้วย (ให้เกินครึ่งถ้วยเล็กน้อย) จากนั้นปิดฝานึ่งประมาณ 5 นาที พอครบเวลา ยกลงจากเตา พักทิ้งไว้ประมาณ 1-2 นาที

           5. เทส่วนผสมหน้ากะทิลงไปจนเต็มถ้วย นำไปนึ่งต่ออีกประมาณ 6-7 นาทีจนขนมสุก ยกลงจากเตา พักทิ้งไว้จนเย็นประมาณ 10 นาที

           6. ค่อย ๆ ใช้ไม้พายหรือไม้ไอศกรีมแช่น้ำแคะขนมออกจากถ้วย ตักใส่จาน พร้อมเสิร์ฟ

          ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ ขนมถ้วย ขนมไทยสูตรทำง่าย ถ้วยเดียวไม่เคยพอ




15 สูตรขนมไทยยอดนิยม

 5. ขนมใส่ไส้ 

          ขนมใส่ไส้ หรือขนมสอดไส้ เมนูขนมหวานสุดอร่อย ใส่ไส้หน้ากระฉีก สูตรนี้นำเสนอแบบห่อใบตอง และไม่ห่อใบตองด้วย เลือกเอาแบบที่ชอบ จะทำกินเอง หรือทำขายก็ได้ เพราะต้นทุนไม่สูงมาก 

 ส่วนผสม ขนมใส่ไส้

           มะพร้าวขูดขาว 2 1/2 ถ้วย
           น้ำตาลมะพร้าว 1 1/2 ถ้วย
           น้ำต้มสุก
           เทียนอบ (สำหรับอบควันเทียน) ใช้หรือไม่ใช้ก็ได้ตามความสะดวก
           แป้งข้าวเหนียว 2 ถ้วย
           น้ำเย็น 1/3 ถ้วย (หรือน้ำใบเตย, น้ำอัญชันแช่เย็น หากต้องการเพิ่มสีสัน)
           แป้งข้าวเจ้า 1/3 ถ้วย
           เกลือป่น 2 ช้อนชา
           หัวกะทิ 3 1/3 ถ้วย

          เตรียมใบตองตัดเป็น 2 ขนาด แผ่นใหญ่ขนาดประมาณ 5X9 เซนติเมตร และแผ่นเล็กขนาดประมาณ 4X6 เซนติเมตร แล้วตัดหัว-ท้ายเป็นสามเหลี่ยม เช็ดให้สะอาดทั้ง 2 ด้าน นำไปตากแดดทิ้งไว้สักครู่ (เพื่อไม่ให้ใบตองแตกขณะห่อขนม)

 วิธีทำหน้ากระฉีก (ส่วนผสมไส้)

           1. กวนมะพร้าวขูดกับน้ำตาลมะพร้าว และน้ำต้มสุกในกระทะด้วยไฟอ่อน ๆ จนส่วนผสมเหนียวและแห้ง ยกลงจากเตา พักทิ้งไว้จนเย็นสนิท

           2. พอส่วนผสมเย็นสนิทแล้วปั้นเป็นก้อนกลม ๆ ประมาณ 1 นิ้วใส่ในภาชนะที่มีฝาปิด 

           3. นำส่วนผสมไส้ไปอบด้วยควันเทียน เตรียมไว้

 วิธีทำแป้ง

           นวดแป้งข้าวเหนียวกับน้ำเย็นจนพอปั้นได้ จากนั้นปั้นเป็นก้อนกลมขนาดเดียวกับหน้ากระฉีก เตรียมไว้

 วิธีทำส่วนผสมหน้าขนม

           ผสมแป้งข้าวเจ้า เกลือป่น และกะทิคนให้ละลายเข้าด้วยกัน เทใส่ในกระทะทองเหลือง (หรือกระทะเทฟลอน) ใช้ไฟปานกลางกวนจนข้นและเดือดทั่ว ยกลงจากเตา เตรียมไว้

 วิธีทำขนมใส่ไส้แบบห่อใบตอง

           1. แผ่แป้งข้าวเหนียวที่ปั้นไว้เป็นแผ่นบาง ๆ (กะให้พอหุ้มไส้ได้มิด) จากนั้นหยิบไส้กระฉีกวางลงไปตรงกลางแล้วหุ้มแป้งให้มิด วางขนมลงบนใบตองที่ซ้อนกัน

           2. หงายใบตองแผ่นใหญ่ขึ้น (ด้านนวล) แล้ววางทับด้วยใบตองแผ่นเล็ก วางไส้ขนมลงไป จากนั้นตักหน้าขนมประมาณ 1/2 ช้อนชา ใส่ด้านบนไส้

           3. ห่อใบตองเป็นทรงสูง ใช้ใบมะพร้าวที่เตรียมไว้คาดและกลัดด้วยไม้กลัดให้เรียบร้อย ตัดปลายเตี่ยวให้เฉียงและยาวพองาม วางเรียงห่อขนมลงในชุดนึ่ง

           4. นำขนมไปนึ่งในชุดนึ่งที่มีน้ำเดือดพล่านประมาณ 10 นาที ยกลงจากเตา 

 วิธีทำขนมใส่ไส้สูตรประยุกต์

           1. ตักส่วนผสมหน้ากะทิใส่ลงในถ้วยขนาดเล็ก (หรือพิมพ์พลาสติก) ประมาณ 1/2 ของพิมพ์ เตรียมไว้

           2. แผ่แป้งข้าวเหนียวที่ปั้นไว้เป็นแผ่นบาง ๆ (กะให้พอหุ้มไส้ได้มิด) จากนั้นหยิบไส้กระฉีกวางลงไปตรงกลางแล้วหุ้มแป้งให้มิด จากนั้นนำไปต้มในน้ำเดือดจนลอยขึ้นมา ตักขึ้นใส่จาน เตรียมไว้

           3. ค่อย ๆ นำส่วนผสมไส้วางลงในพิมพ์อย่างเบามือให้สวยงาม พร้อมเสิร์ฟ

          ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ ขนมใส่ไส้ ขนมไทยสุดคลาสสิก เนื้อเนียนไส้นุ่มละมุนทุกสัมผัส





วุ้นกะทิ เมนูคู่คนไทย ทำก็ง่ายกินก็อร่อย

15 สูตรขนมไทยยอดนิยม

 6. วุ้นกะทิ 

          วุ้นกะทิ เมนูวุ้นกรอบ ๆ ทำเองง่าย ๆ ด้วยพิมพ์วุ้นซิลิโคนรูปดอกไม้ ทำสลับสีสวย ๆ ตามชอบ ทั้งสีแดง หรือสีเขียว ยิ่งเอาไปแช่เย็น ๆ กินตอนอากาศร้อน ๆ ยิ่งฟินเข้าไปใหญ่เลยค่ะ  ถ้าอยากทำขายก็เพิ่มทางเลือกสำหรับลูกค้าโดยพิมพ์ซิลิโคนรูปอื่น ๆ ด้วยก็ได้นะคะ 

 ส่วนผสม วุ้นกะทิ

           ผงวุ้น 1 1/2 ช้อนโต๊ะ
           น้ำเปล่า 350 มิลลิลิตร
           หัวกะทิ 2 1/2 ถ้วย
           ใบเตย หั่นเป็นท่อน 2-3 ใบ
           น้ำตาลทรายขาว 1/2 ถ้วย
           เกลือป่น 1/2 ช้อนชา

 ส่วนผสม วุ้นสี

           ผงวุ้น 1 ช้อนชา
           น้ำเปล่า
           น้ำตาลทรายขาว 1/2 ถ้วย
           สีผสมอาหาร 1 ช้อนชา

 วิธีทำวุ้นกะทิ

           1. ทำวุ้นกะทิโดยใส่น้ำเปล่าลงในหม้อ นำขึ้นตั้งไฟพอร้อน ใส่ผงวุ้นลงไปคนให้ละลาย พอน้ำเดือดแล้วให้ปิดไฟ คนต่อไปเรื่อย ๆ จนผงวุ้นละลายหมด

           2. ใส่ใบเตยลงไป คอยกวนไปเรื่อย ๆ ให้พอมีกลิ่นใบเตย ตามด้วยน้ำตาลทรายขาว คนจนน้ำตาลทรายละลายและส่วนผสมเดือด เทหัวกะทิใส่ลงไป คนผสมให้เข้ากันพอเดือดเล็กน้อย ปิดไฟ ยกลงจากเตา

           3. หยอดส่วนผสมวุ้นลงในพิมพ์ซิลิโคนประมาณ 1/2 พิมพ์ พักทิ้งไว้จนเซตตัว

           4. ทำวุ้นสีโดยใส่น้ำเปล่าและผงวุ้นลงในหม้อ นำขึ้นตั้งไฟคนให้ละลาย ใส่ใบเตยลงไป ตามด้วยน้ำตาลทรายขาว คนผสมจนน้ำตาลทรายละลายและมีกลิ่นใบเตย จากนั้นช้อนตักใบเตยทิ้ง

           5. ใส่สีผสมอาหารลงไป คนผสมให้เข้ากัน พอเดือดแล้วปิดไฟยกลงจากเตา นำไปหยอดลงบนวุ้นกะทิที่เซตตัวแล้วประมาณ 1 ช้อนโต๊ะ พักทิ้งไว้จนคลายความร้อน นำไปแช่เย็นก่อนเสิร์ฟ

          ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ วุ้นกะทิ ขนมไทยง่าย ๆ กินตอนไหนก็ใช่




15 สูตรขนมไทยยอดนิยม

 7. ลอดช่องน้ำกะทิ

          อากาศร้อนอย่างนี้ถ้าได้กินลอดช่องสูตรจาก คุณ RinS Cook Book คงจะชุ่มฉ่ำใจสุด ๆ ยิ่งถ้าใส่น้ำแข็งเยอะ ๆ ยิ่งฟินเลยนะ ขอกระซิบว่า สูตรนี้ใส่แป้งถั่วเขียวทำให้เส้นลอดช่องหอมกลิ่นใบเตย เนื้อเหนียวนุ่ม เคี้ยวเพลินกำลังดีเลยค่ะ 

 ส่วนผสม น้ำกะทิ

           น้ำตาลปี๊บ 3 1/2 -4 ถ้วย
           เกลือป่น 1 ช้อนชา
           กะทิ 5 ถ้วย

 ส่วนผสม ตัวลอดช่อง

           ใบเตยหั่นเป็นชิ้นเล็ก ๆ 1 ปอนด์
           น้ำปูนใส 9 1/2 -10 ถ้วย
           แป้งข้าวเจ้า 3 ถ้วย
           แป้งมันสำปะหลัง 1 ถ้วย
           แป้งถั่วเขียว 4 ช้อนโต๊ะ
           น้ำเย็นจัด
           น้ำแข็งทุบ

 วิธีทำลอดช่อง

           1. ทำน้ำกะทิโดยใส่น้ำตาลปี๊บ เกลือป่น และกะทิลงในอ่างผสม ใช้มือขยำส่วนผสมเข้าด้วยกันจนน้ำตาลปี๊บละลายเข้ากันดี กรองด้วยตะแกรง 

           2. นำส่วนผสมน้ำกะทิขึ้นตั้งไฟปานกลาง เคี่ยวจนน้ำกะทิใกล้เดือด (ให้ส่วนผสมเดือดเฉพาะตรงกลาง ไม่เดือดพล่าน เพื่อไม่ให้กะทิแตกมัน) ประมาณ 10-15 นาที ปิดไฟ ยกลงจากเตา พักทิ้งไว้จนเย็น เตรียมไว้ (สามารถทำไว้ล่วงหน้าหรือทำทิ้งไว้ข้ามคืนได้)

           3. ใส่ใบเตยลงในเครื่องปั่น ตามด้วยน้ำปูนใส 6-7 ถ้วย ปั่นจนละเอียด จากนั้นคั้นเอาเฉพาะน้ำ เตรียมไว้

           4. ใส่แป้งข้าวเจ้า แป้งมันสำปะหลัง และแป้งถั่วเขียวลงไปในน้ำใบเตย โดยปล่อยให้แป้งค่อย ๆ จมลงไปในน้ำจนหมด (เทคนิค : ปล่อยให้แป้งจมลงไปในน้ำเอง รอประมาณ 1 นาที โดยไม่ต้องคน เพื่อให้มั่นใจได้ว่า แป้งจะได้ไม่จับตัวเป็นก้อน และละลายเข้ากับน้ำทั้งหมด) พอแป้งจมลงหมดแล้ว ค่อย ๆ คนผสมจนเข้ากันดี จากนั้นกรองด้วยตะแกรง เตรียมไว้

           5. ใส่ส่วนผสมลงในกระทะก้นลึกขนาดใหญ่ นำขึ้นตั้งไฟปานกลาง กวนผสมตลอดเวลา ใช้เวลาประมาณ 45 นาที ถึง 1 ชั่วโมง พอแป้งเริ่มเหนียว ค่อย ๆ เทน้ำปูนใสที่เหลือลงไปจนหมด กวนจนส่วนผสมเหนียว และมีสีใส

           6. ตักส่วนผสมแป้งใส่เครื่องกดลอดช่อง กดแป้งเป็นเส้น ๆ ลงในน้ำเย็นจัด จากนั้นตักส่วนผสมขึ้น ใส่ลงในถ้วย ตามด้วยน้ำกะทิที่เตรียมไว้ และน้ำแข็ง พร้อมเสิร์ฟ

          ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ ลอดช่องน้ำกะทิ ขนมไทยดับร้อนสีสันสดใส




15 สูตรขนมไทยยอดนิยม

 8. ขนมตาล 

          ขนมตาลใส่ใบตองเป็นภาพที่เราคุ้นตาไปแล้ว แต่สำหรับขนมตาลสูตรจาก นิตยสาร Health & Cuisine สูตรนี้ใส่ถ้วยตะไลเล็ก ๆ กินง่ายชิ้นพอดีคำ สีเหลืองนวลสวย เนื้อเหนียวนุ่ม รสชาติหวานหอมพอเหมาะ ยิ่งโรยด้วยมะพร้าวทึนทึกก็ยิ่งอร่อยมากกว่าเดิม ไม่ว่าจะทำกิน หรือจะทำขายใช้สูตรนี้เลยค่ะ จัดไป ๆ 

 ส่วนผสม ขนมตาล

           น้ำตาลทราย 400 กรัม
           กะทิ 3 ถ้วย
           เนื้อลูกตาลสุก 350 กรัม
           แป้งข้าวเจ้า 500 กรัม
           ผงฟู 1 ช้อนโต๊ะ
           มะพร้าวทึนทึกขูดเส้นเล็ก (คลุกเกลือเล็กน้อยสำหรับโรยหน้า) 2 ถ้วย

 วิธีทำขนมตาล

           1. ละลายน้ำตาลทรายในกะทิ เติมเนื้อลูกตาลลงไป คนให้เข้ากัน จากนั้นใส่แป้งและผงฟูลงไป คนจนเนียน

           2. กรองส่วนผสมด้วยผ้าขาวบาง พักไว้ประมาณ 10 นาทีให้ส่วนผสมขึ้น

           3. ระหว่างรอขนมขึ้น ใส่น้ำในลังถึง ตั้งไฟกลางเตรียมไว้ เรียงถ้วยตะไลลงในลังถึง พอส่วนผสมครบเวลา ตักส่วนผสมยอดลงในถ้วยตะไลจนเต็มถ้วย โรยด้วยมะพร้าวทึนทึก นึ่งบนน้ำเดือดประมาณ 15-20 นาที จนกระทั่งสุก ยกลงจากเตา พักให้เย็นแซะออกจากถ้วย พร้อมเสิร์ฟ



15 สูตรขนมไทยยอดนิยม

 9. ขนมฟักทอง 

          ขนมฟักทอง ขนมไทยยอดนิยมไม่แพ้ขนมไทยชนิดอื่น ๆ เลยค่ะ ตัวเนื้อขนมใส่ฟักทองลงไปคลุกเคล้ากับส่วนผสมอื่น ๆ จนได้ออกมาเป็นเนื้้อสีเหลืองสวย เคี้ยวหนุบหนับเพลิน ๆ สูตรนี้ไม่ต้องใส่ใบตองแต่ใช้ถ้วยตะไลแทนทำให้สะดวกรวดเร็วมากขึ้น ถ้าพร้อมแล้วมาลองทำทานกันดีกว่าค่ะ 

 ส่วนผสม ขนมฟักทอง

           ฟักทอง 500 กรัม (ปอกเปลือก หั่นเป็นชิ้น ๆ)
           แป้งข้าวเจ้า 1 ถ้วย
           แป้งมันสำปะหลัง 1/4 ถ้วย
           มะพร้าวขูด 50 กรัม
           น้ำตาลทราย 1 ถ้วย
           เกลือป่น 1/2 ช้อนชา
           กะทิ 1 ถ้วย
           ถ้วยตะไล (สำหรับนึ่ง)

 วิธีทำขนมฟักทอง

           1. นำฟักทองไปนึ่งจนสุกแล้วนำออกมาพักทิ้งไว้จนเย็นสนิท

           2. ใส่แป้งข้าวเจ้าและแป้งมันสำปะหลังลงในฟักทองที่นึ่งสุกแล้ว จากนั้นนวดผสมให้เข้ากัน

           3. ใส่มะพร้าวขูด น้ำตาลทราย และเกลือป่นลงไปนวด จากนั้นค่อย ๆ เติมกะทิลงไปคนผสมจนเข้ากันดีและน้ำตาลทรายละลายหมด 

           4. ตักส่วนผสมใส่ถ้วยตะไลประมาณ 3/4 ของถ้วย จากนั้นนำไปนึ่ง (ในชุดนึ่งที่มีน้ำเดือด) ประมาณ 15-20 นาที นึ่งจนแป้งสุกและใส ยกลงจากเตา พักทิ้งไว้จนเย็น 

           5. แคะขนมออกจากถ้วย พร้อมเสิร์ฟ

          ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ ขนมฟักทอง ขนมไทยสีสวยเนื้อเหนียวนุ่ม




15 สูตรขนมไทยยอดนิยม


 10. ขนมกล้วย 

          เคยไหม ? ซื้อกล้วยมาทุกครั้งมักกินไม่หมดจนต้องปล่อยสุกงอมทิ้งคาเครือ วันนี้เรามาแปรรูปกล้วยน้ำว้าให้เป็นขนมกล้วย ขนมไทยสุดอร่อย เนื้อนุ่มเหนียว รสชาติหวานกำลังดี มีรสสัมผัสของกล้วยกันดีกว่า ทำง่าย ๆ ใช้ใบตอง หรือถ้วยตะไลก็ได้  ใช้เวลานึ่งประมาณ 20 นาที ก็เสร็จพร้อมเสิร์ฟแล้วค่ะ 

 ส่วนผสม ขนมกล้วย

           กล้วยน้ำว้าสุก (บดละเอียด) 500 กรัม
           น้ำตาลทราย 100 กรัม
           เกลือป่น 1 ช้อนชา
           แป้งข้าวเจ้า 100 กรัม
           แป้งมันสำปะหลัง 5 ช้อนโต๊ะ
           หัวกะทิ 200 มิลลิลิตร
           มะพร้าวทึนทึกขูดฝอย
           ใบตองสำหรับห่อ (ถ้าไม่มีใบตองสามารถใช้ถ้วยตะไลได้)

 วิธีทำขนมกล้วย

           1. ผสมกล้วยน้ำว้ากับน้ำตาลทราย เกลือป่น แป้งข้าวเจ้า แป้งมันสำปะหลัง หัวกะทิ และมะพร้าวขูด คนผสมให้เข้ากันดี 

           2. ตักส่วนผสมขนมกล้วยลงบนใบตอง แผ่บาง ๆ หรือจะทำเป็นทรงกรวยห่อเป็นทรงให้สวยงาม (หรือตักใส่ถ้วยตะไล) วางเรียงบนชุดนึ่งที่มีน้ำเดือด นึ่งประมาณ 20 นาทีจนขนมสุก จากนั้นนำออกจากชุดนึ่ง พร้อมเสิร์ฟ

          ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ ขนมกล้วย ขนมไทยทำง่าย สมชื่อกล้วย ๆ



15 สูตรขนมไทยยอดนิยม

 11. ขนมเข่ง 

          ไม่ต้องรอให้ถึงวันตรุษจีนก็ทำขนมเข่งไว้กินได้ เพียงแค่มีส่วนผสมต่าง ๆ ได้แก่ แป้งข้าวเหนียว น้ำสะอาด น้ำตาลปี๊บ และมะพร้าวขูด  ที่สำคัญต้องมีกระทงสำหรับหยอดขนมไว้ให้เรียบร้อย สูตรนี้แป้งเหนียวนุ่ม รสชาติหวานน้อย มีรสสัมผัสของมะพร้าวขูด เอ้า… ลงมือกันได้เลย

 ส่วนผสม ขนมเข่ง

           แป้งข้าวเหนียว 1 กิโลกรัม
           น้ำสะอาด 1 ถ้วย
           น้ำตาลปี๊บ 1 กิโลกรัม
           มะพร้าวขูด 300 กรัม
           กระทงสำหรับใส่ขนม
           น้ำมันพืชสำหรับทากระทง

 วิธีทำขนมเข่ง

           1. ทากระทงด้วยน้ำมันพืชให้ทั่ว เตรียมไว้

           2. นวดแป้งข้าวเหนียวกับน้ำจนแป้งนุ่ม จากนั้นใส่น้ำตาลปี๊บลงนวดให้เข้ากันเป็นเนื้อเดียว

           3. ใส่มะพร้าวขูดลงคนผสมให้เข้ากัน ตักใส่กระทงประมาณ 3/4 ของกระทง 

           4. วางขนมเรียงลงในชุดนึ่ง จากนั้นนำไปนึ่งด้วยไฟแรงที่มีน้ำเดือด นานประมาณ 1/2 ชั่วโมง ยกลงจากเตา พักทิ้งไว้จนเย็น ใช้กรรไกรตัดเจียนกระทงที่เกินออกให้พอดีกับขนม พร้อมเสิร์ฟ

          ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ ขนมเข่ง ขนมไหว้เจ้าชื่อมงคล ตัวแทนความราบรื่นของชีวิต




15 สูตรขนมไทยยอดนิยม

 12. สังขยาฟักทอง 

          ต่อไปนี้ถ้าต้องการกินขนมไทยอย่างสังขยาฟักทองไม่ต้องซื้ออีกแล้ว ลองหันมาทำเองง่าย ๆ แค่เตรียมฟักทองลูกเล็ก ๆ ไว้เท่านั้น ต่อมาก็ใช้มีดเจาะไปที่ขั้วฟักทองออกให้เป็นฝา จากนั้นคว้านเอาไส้ออกจนหมด และกรอกส่วนผสมไข่ลงไป ตามด้วยโรยฝอยทอง นำไปนึ่งประมาณ 30 นาที เมื่ออยากจะกินก็ตัดเป็นชิ้น พร้อมเสิร์ฟ 

 ส่วนผสม สังขยาฟักทอง

           ฟักทองลูกเล็ก 1 ลูก
           ไข่ไก่ 8 ฟอง
           น้ำตาลปี๊บ 100 กรัม
           หัวกะทิ 1 ถ้วย
           ฝอยทอง สำหรับหยอดหน้า

 วิธีทำสังขยาฟักทอง

           1. ใช้มีดเจาะไปที่ขั้วฟักทองออกให้เป็นฝา จากนั้นคว้านเอาไส้ออกจนหมดแล้วนำไปล้างให้สะอาด เตรียมไว้

           2. ผสมไข่ไก่กับน้ำตาลปี๊บ และหัวกะทิให้เข้ากันเป็นเนื้อเดียว นำไปกรองผ่านตะแกรง จากนั้นเทใส่ลงในผลฟักทอง โรยฝอยทองด้านบน

           3. ใส่สังขยาฟักทองลงชามกระเบื้องขนาดพอดีกัน จากนั้นนำไปนึ่งในชุดนึ่งที่มีน้ำเดือด นานประมาณ 30-40 นาที หรือจนฟักทองสุก ยกออกจากชุดนึ่ง พักไว้จนเย็น ตัดเป็นชิ้น พร้อมเสิร์ฟ

ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ สังขยาฟักทอง ขนมไทยสีเหลืองทองเนื้อเนียนนุ่ม




15 สูตรขนมไทยยอดนิยม

 13. ตะโก้ 

          ขนมไทยใส่กะทิอย่างตะโก้ขนาดเล็กพอดีคำน่าจะถูกใจเพื่อน ๆ หลายคน ด้วยความหวานมันและไส้แห้วที่กรุบกรอบทำให้อยากลิ้มลองสุด ๆ ใครสนใจอยากลองทำตะโก้ แวะเข้ามาจดสูตรได้เลย แจกฟรี เอาไปทำกินเอง หรือจะเอาไปค้าขายก็ได้เช่นกันจ้า

 ส่วนผสม หน้ากะทิ

           แป้งข้าวเจ้า 1/4 ถ้วยตวง
           กะทิ 2 ถ้วยตวง
           เกลือป่น 1 ช้อนชา

 ส่วนผสม ตะโก้

           น้ำเปล่า 1 ถ้วย
           น้ำตาลทราย 1 1/2 ถ้วย
           แป้งข้าวเจ้า 1/2 ถ้วย
           แป้งมันสำปะหลัง 1/4 ถ้วย
           แป้งถั่วเขียว 2 ช้อนโต๊ะ
           น้ำลอยดอกมะลิ 2 ถ้วย (หรือน้ำสะอาด 2 ถ้วย ผสมน้ำหอมกลิ่นมะลิ 1/2 ช้อนชา)
           น้ำใบเตยคั้นเข้มข้น 2 ช้อนโต๊ะ
           แห้วต้มสุก (หั่นเต๋าเล็ก) 1 ถ้วย
           กระทงใบเตยสำหรับใส่ขนม

 วิธีทำหน้ากะทิ

           ใส่แป้งข้าวเจ้า กะทิ และเกลือป่นลงในหม้อ นำขึ้นตั้งไฟใช้ความร้อนปานกลาง คนผสมจนข้นและเหนียว ยกลงจากเตา เตรียมไว้หยอดลงบนขนมตะโก้

 วิธีทำตะโก้

           1. ใส่น้ำเปล่าลงในหม้อ นำขึ้นตั้งไฟ ใส่น้ำตาลทรายลงไปคนให้ละลาย ต้มจนเดือดและเหนียวเป็นน้ำเชื่อม พักไว้จนเย็น

           2. ผสมแป้งข้าวเจ้า แป้งมันสำปะหลัง แป้งถั่วเขียว น้ำลอยดอกมะลิ และน้ำใบเตยจนละลายเข้ากันดี เทใส่ลงในส่วนผสมน้ำเชื่อม กวนผสมจนแป้งสุกเหนียวและใส จากนั้นใส่แห้วลงคนผสมให้เข้ากัน ยกลงจากเตา

           3. ตักใส่กระทงใบเตยที่เตรียมไว้ประมาณ 3/4 ของกระทง ตามด้วยหน้ากะทิจนเต็มพิมพ์ พักทิ้งไว้จนอุ่น จัดใส่จาน พร้อมเสิร์ฟ

          ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ ตะโก้แห้ว ขนมไทยถ้วยจิ๋วหวานละมุนนุ่มลิ้น




15 สูตรขนมไทยยอดนิยม

 14. กล้วยบวชชี 

          เมนูกล้วยบวชชี ขนมไทยทำง่าย ใช้กล้วยน้ำว้าห่ามลงไปต้มในน้ำเดือด แล้วนำไปใส่ในหม้อที่มีส่วนผสมกะทิ ปรุงรสชาติให้ถูกปาก ทำครั้งเดียวแบ่งกินได้ทั้งครอบครัว หรือจะทำขายก็ได้กำไรงามเช่นกัน 

 ส่วนผสม กล้วยบวชชี

           กล้วยน้ำว้าห่าม 8 ลูก
           หางกะทิ 500 มิลลิลิตร
           ใบเตย 2 ใบ
           น้ำตาลปี๊บ 4 ช้อนโต๊ะ
           น้ำตาลทราย 4 ช้อนโต๊ะ
           เกลือปริมาณเล็กน้อย
           หัวกะทิ 400 มิลลิลิตร

 วิธีทำกล้วยบวชชี

           1. ต้มกล้วยในน้ำเดือด นานประมาณ 3-5 นาที จนผิวกล้วยเริ่มแตกออก ตักขึ้น ปอกเปลือกแล้วหั่นเป็นชิ้นพอดีคำ

           2. ต้มหางกะทิกับใบเตยจนเดือด ใส่กล้วย ตามด้วยน้ำตาลปี๊บ น้ำตาลทราย และเกลือ ต้มจนเดือดอีกครั้ง ใส่หัวกะทิลงไป ต้มจนเดือดประมาณ 3 นาที ตักใส่ถ้วย พร้อมเสิร์ฟ

          ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ กล้วยบวชชี ขนมไทยพื้นบ้าน หอมกลิ่นกะทิชวนรับประทาน




15 สูตรขนมไทยยอดนิยม

 15. ข้าวเหนียวสังขยา 

          ความหอมหวานของเนื้อสังขยาที่โปะอยู่บนหน้าข้าวเหนียวทำให้กินแล้วอร่อยลงตัวสุด ๆ แต่ครั้นจะไปซื้อมากินบ่อย ๆ ก็คงไม่มีเวลาขนาดนั้น ถ้าหากชอบเข้าครัวอยู่แล้วลองมาทำข้าวเหนียวสังขยาสูตรจาก คุณโอน่าจอมซ่าส์ กันหน่อยดีกว่า ทำง่ายกว่าที่คิดเยอะ แยกเป็นสูตรข้าวเหนียวมูนและสังขยาไข่ เมื่อทำเสร็จแล้วเอามากินพร้อมกัน อร่อยเหาะไปเลย 

 ส่วนผสม สังขยาไข่

           ไข่เป็ด 3 ฟอง
           กะทิ 1/2 กระป๋อง 
           ใบเตย 3-4 ใบ
           น้ำตาลปึก 4 ก้อน 
 
 ส่วนผสม ข้าวเหนียวมูน

           ข้าวเหนียวเขี้ยวงู
           กะทิ
           สารส้ม
           น้ำตาลทราย
           เกลือป่น
           ใบเตย

 วิธีทำสังขยาไข่

           1. ตอกไข่และน้ำตาลปึกใส่ชาม ใส่ใบเตยลงไป ใช้มือขยำให้น้ำตาลละลาย โดยใช้ใบเตยช่วย (สวมมือลงในถุงพลาสติกขณะขยำ)

           2. เติมกะทิ คนให้เข้ากัน แล้วกรองด้วยผ้าขาวบางใส่ในถ้วย ชาม หรือถาดก้นลึก

           3. นำขึ้นนึ่งในหม้อน้ำเดือด ใช้ไฟแรงเปิดฝาขณะนึ่งจนสุกใช้ เวลาประมาณ 45 นาที (ระยะเวลาขึ้นอยู่กับขนาดของภาชนะ) เสิร์ฟกับข้าวเหนียวมูน

 วิธีทำข้าวเหนียวมูน

           1. แช่ข้าวเหนียวในน้ำกวนสารส้ม 5 นาที แล้วเทน้ำออก จากนั้นแช่น้ำทิ้งไว้ 3 ชั่วโมง หรือแช่ค้างคืน ทั้งนี้ หากอยากได้ข้าวเหนียวสีสันต่าง ๆ ให้ผสมสีผสมอาหาร หรือสีจากธรรมชาติลงไปในน้ำด้วย 

           2. เมื่อครบเวลาให้เทน้ำออกแล้วนำเข้าเหนียวไปนึ่ง ตั้งไฟแรงจนสุก พักไว้

           3. ตั้งหม้อใส่กะทิ น้ำตาลทราย เกลือป่น และใบเตยลงไป ต้มพอเดือด นำไปเทใส่ข้าวเหนียว แล้วคนกันให้ทั่ว ปิดฝาพักไว้ประมาณ 10-15 นาที และคนข้าวเหนียวอีกครั้ง

           4. ตักข้าวเหนียวใส่จาน เสิร์ฟพร้อมสังขยา